ข้าวบาร์เลย์ Barley วิธีหุงข้าวบาร์เลย์นุ่มอร่อยทำง่ายได้คุณค่า ประโยชน์ข้าวบาร์เลย์ เมนูธัญพืชคล้ายลูกเดือยเพื่อสุขภาพ How to cook Barley - Fit Food

 


ข้าวบาร์เลย์ Barley วิธีหุงข้าวบาร์เลย์นุ่มอร่อยทำง่ายได้คุณค่า ประโยชน์ข้าวบาร์เลย์ เมนูธัญพืชคล้ายลูกเดือยเพื่อสุขภาพ How to cook Barley - Fit Food


          เมนูสุขภาพวันนี้ชวนมาทานข้าวบาร์เลย์กันค่ะ ธัญพืชที่มีลักษณะคล้ายลูกเดือย แต่มีขนาดเล็กกว่า มีเนื้อสัมผัสเหนียวกว่า และให้คุณค่าทางสารอาหารหลายอย่าง ที่สำคัญคือมีไขมันต่ำ เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

          วันนี้ช่อง Fit Food ส้มโอมีวิธีหุงข้าวบาร์เลย์แบบง่าย ๆ ด้วยหม้อหุงข้าว รวมทั้งประโยชน์และข้อควรระวัง ในการรับประทานข้าวบาร์เลย์ มาฝากกันค่ะ
 

ประโยชน์ข้าวบาร์เลย์

     1. ข้าวบาร์เลย์มีกากใยสูง โดยมีเส้นใยอาหารเป็น 20 เท่าของข้าวขาว และมีเบต้ากลูเตนในปริมาณสูงด้วย ทำให้เรารู้สึกอิ่มนานและไม่อ้วนง่ายด้วยค่ะ ข้าวบาร์เลย์จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือด และยังเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ทำให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ

     2. ข้าวบาร์เลย์มีโปรตีนจากพืชเป็น 2 เท่าของข้าวขาว จึงเป็นอาหารที่มีโปรตีนทางเลือกสำหรับนักกีฬา ได้เป็นอย่างดี

     3 อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยข้าวบาร์เลย์มีโปแตสเซียมสูงกว่าข้าวขาว มีแคลเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี ตลอดจนมีวิตามิน B2 เป็น 2 เท่าของข้าวขาว ซึ่งวิตามิน B2 นี้จะช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ให้ทำงานได้ดี อีกทั้งยังมีวิตามิน E ซึ่งเป็นสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ สูงถึง 4 เท่าของข้าวขาวด้วย

     ในการรับประทานข้าวบาร์เลย์ สามารถนำมาหุงกับข้าวขาว เพื่อทำเป็นข้าวปั้นสำหรับอาหารญี่ปุ่นได้ วิธีการคือ ล้างข้าวสาร 2 ถ้วย ( 300 กรัม) แล้วเติมน้ำสะอาดสำหรับการหุงข้าว จากนั้นเติมข้าวบาร์เลย์ครึ่งถ้วยลงไป ( ข้าวบาร์เลย์ที่ล้างสะอาดแล้ว ) แล้วเติมน้ำเพิ่มลงไปอีก 150 ml แช่ไว้ 30 นาที แล้วก็นำมาหุงตามปกติ จนกระทั่งสุก


ข้าวบาร์เลย์ (Pearl Barley) ตรา Glory Rice ขนาด 250กรัม 500 กรัม และ 1 กิโลกรัม
ข้าวบาร์เลย์ ตรา Glory Rice 

ข้าวบาร์เลย์ (Pearl Barley) ตรา Glory Rice ขนาด 250กรัม 500 กรัม และ 1 กิโลกรัม




วิธีหุงข้าวบาร์เลย์ 100% แบบไม่ผสมข้าวขาว

          เป็นวิธีรับประทานข้าวบาร์เลย์ที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยหม้อหุงข้าว โดยล้างข้าวบาร์เลย์ให้สะอาด แล้วแช่น้ำ 300 ml ให้นิ่มขึ้นประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง วันนี้ส้มโอใช้ข้าวบาร์เลย์ทั้งหมด 100 กรัมค่ะ หลังจากนั้นเททั้งข้าวบาร์เลย์และน้ำที่แช่ข้าว ใส่ลงในหม้อหุงข้าว แล้วนำมาหุงได้ตามปกติ จนกระทั่งสุก ตักข้าวบาร์เลย์ใส่ถ้วยคนให้กระจายตัว เพียงเท่านี้ก็จะได้ข้าวบาร์เลย์ที่อร่อย เนื้อนุ่มพร้อมรับประทานค่ะ

          นอกจากนี้ข้าวบาร์เลย์ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารว่าง รับประทานกับสลัดหรือซุปก็ได้ค่ะ โดยนำมาต้มจนนิ่ม แล้วล้างด้วยน้ำเย็น นำมารับประทานกับสลัด หรือใส่ในซุป หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ตามชอบค่ะ
 

          ข้อควรระวังในการรับประทานข้าวบาร์เลย์

          เนื่องจากข้าวบาร์เลย์มีโปรตีนกลูเตนอยู่ด้วย ดังนั้นสำหรับคนที่แพ้โปรตีนกลูเตน ก็อาจจะหลีกเลี่ยงการรับประทาน โดยหันไปรับประทานลูกเดือย หรือข้าวกล้องแทน ก็ได้ค่ะ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

@templatesyard